เมนู

ประการทั้งปวงอยู่ อาวุโส เรามิได้คิดอย่างนี้ว่า เราเข้าสัญญา-
เวทยิตนิโรธอยู่ หรือว่าเข้าสัญญาเวทยิตนิโรธแล้ว หรือว่าออกจาก
สัญญาเวทยิตนิโรธแล้ว แท้จริง ท่านพระสารีบุตร ถอนอหังการ
มมังการ และมานานุสัยออกได้นานแล้ว ฉะนั้น ท่านพระสารีบุตรจึง
มิได้คิดอย่างนี้ว่า เราเข้าสัญญาเวทยิตนิโรธอยู่ หรือว่าเข้าสัญญา-
เวทยิตนิโรธแล้ว หรือว่าออกจากสัญญาเวทยิตนิโรธแล้ว.
จบ สัญญาเวทยิตนิโรธสูตรที่ 9

7. อรรถกถาสารีปุตตสังยุต

อรรถกถาสูตรที่ 1-9


พึงทราบวินิจฉัยในสูตรที่ 1 แห่งสารีปุตตสังยุต ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า น เอวำ โหติ ความว่า เพราะท่านละอหังการ
(ความสำคัญว่าเรา) และมมังการ (ความสำคัญว่าของเรา) ได้แล้ว
จึงไม่มีความคิดอย่างนี้.
แม้ในสูตรที่ 2 เป็นต้น (จนถึงสูตรที่ 9) ก็มีนัย (ความหมาย
อย่างเดียวกัน) นี้.
จบ อรรถกถาสูตรที่ 1-9

10. สูจิมุขีสูตร



ว่าด้วยความแตกต่างการเลี้ยงชีวิตของสมณพราหมณ์



[518] สมัยหนึ่ง ท่านพระสารีบุตรอยู่ ณ พระวิหารเวฬุวัน-
กลันทกนิวาปสถาน กรุงราชคฤห์ ครั้งนั้น เป็นเวลาเช้า ท่านพระสารีบุตร
นุ่งแล้ว ถือบาตรและจีวร เข้าไปบิณฑบาตยังกรุงราชคฤห์ เที่ยว
บิณฑบาต ตามลำดับตรอกในกรุงราชคฤห์ แล้วอาศัยเชิงฝาแห่งหนึ่ง
ฉันบิณฑบาตนั้น ครั้งนั้นนางปริพาชิกาชื่อสูจิมุขี เข้าไปหาท่าน-
พระสารีบุตรถึงที่อยู่ ครั้นแล้ว ได้กล่าวกะท่านพระสารีบุตรว่า
ดูก่อนสมณะ ท่านก้มหน้าฉันหรือ ? ท่านพระสารีบุตรตอบว่า
ดูก่อนน้องหญิง เรามิได้ก้มหน้าฉัน.
สู. ถ้าอย่างนั้น ท่านแหงนหน้าฉันหรือสมณะ ?
สา. เรามิได้แหงนหน้าฉันหรอกน้องหญิง.
สู. ถ้าอย่างนั้น ท่านมองดูทิศใหญ่ฉันหรือสมณะ ?
สา. เรามิได้มองดูทิศใหญ่ฉันหรอกน้องหญิง.
สู. ถ้าอย่างนั้น ท่านมองดูทิศน้อยฉันหรือสมณะ ?
สา. เรามิได้มองดูทิศน้อยฉันหรอกน้องหญิง.
สู. ดิฉันถามว่า ดูก่อนสมณะ ท่านก้มหน้าฉันหรือ ท่านก็
ตอบว่า เรามิได้ก้มหน้าฉันหรอกน้องหญิง ดิฉันถามว่า ถ้าอย่างนั้น
ท่านแหงนหน้าฉันหรือสมณะ ท่านก็ตอบว่า เรามิได้แหงนหน้าฉันหรอก